DATA SECURITY
Data Eraser Tools หรือ ซอฟต์แวร์ลบข้อมูลถาวร คือเครื่องมือเฉพาะทางที่ถูกออกแบบมาเพื่อ ทำลายข้อมูลดิจิทัล บนสื่อจัดเก็บข้อมูล (Storage Media) อย่างถาวรและไม่สามารถกู้คืนได้ (Irrecoverable) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรักษาความปลอดภัยของข้อมูลที่ละเอียดอ่อนก่อนการนำอุปกรณ์ไปใช้งานต่อ, ขายต่อ, บริจาค, หรือทำลาย
การลบไฟล์โดยใช้คำสั่ง Delete หรือแม้แต่ Empty Recycle Bin ไม่ได้ทำให้ข้อมูลหายไปอย่างแท้จริง แต่เป็นการซ่อนไฟล์และอนุญาตให้ระบบปฏิบัติการเขียนข้อมูลใหม่ทับลงไปได้ ซึ่งข้อมูลเก่ายังสามารถกู้คืนได้ด้วยเครื่องมือทางนิติวิทยาศาสตร์ (Forensic Tools)
วิธีการทำงานของ Data Eraser Tools
เครื่องมือลบข้อมูลถาวรทำงานโดยใช้วิธีการที่เรียกว่า "Data Overwriting" หรือ การเขียนทับข้อมูล ตามมาตรฐานสากล โดยมีขั้นตอนดังนี้:
1. การเขียนทับ (Overwrite): ซอฟต์แวร์จะเขียนข้อมูลแบบสุ่ม (เช่น ชุดของเลข 0 และ 1 หรืออักขระสุ่ม) ทับลงไปบนทุกส่วนของพื้นที่จัดเก็บข้อมูลเดิม หลายครั้ง (Multiple Passes)
2. มาตรฐานการเขียนทับ: เครื่องมือระดับองค์กรจะรองรับมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับ เช่น
- DoD 5220.22-M: มาตรฐานของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ (มักจะเขียนทับ 3-7 รอบ)
- Gutmann Method: เป็นวิธีการที่ซับซ้อนมาก เขียนทับถึง 35 รอบ (ปัจจุบันไม่นิยมใช้เพราะเกินความจำเป็นและใช้เวลานาน)
- NIST SP 800-88: แนวทางปฏิบัติที่ทันสมัยจากสถาบันมาตรฐานและเทคโนโลยีแห่งชาติสหรัฐฯ (มักแนะนำให้ใช้การเขียนทับเพียง 1-3 รอบ หรือใช้คำสั่ง Secure Erase สำหรับ SSD)
3. การยืนยัน (Verification & Reporting): เครื่องมือระดับมืออาชีพจะตรวจสอบทุกส่วนที่เขียนทับว่าสำเร็จ และ ออกใบรับรองการลบข้อมูล (Certificate of Erasure) เพื่อเป็นหลักฐานทางกฎหมายว่าข้อมูลถูกทำลายอย่างถาวรตามมาตรฐานแล้ว
ความสำคัญของ Data Eraser Tools สำหรับองค์กร
1. การปฏิบัติตามกฎหมาย (PDPA Compliance): เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลถูกลบหรือทำลายอย่างปลอดภัย เมื่อหมดความจำเป็นในการจัดเก็บข้อมูล (Right to Erasure / Data Retention Policy)
2. ความปลอดภัยของทรัพย์สินไอที: ป้องกันข้อมูลรั่วไหลเมื่อมีการนำคอมพิวเตอร์ เซิร์ฟเวอร์ หรืออุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลเก่าออกไปขายต่อ บริจาค หรือกำจัดทิ้ง
3. ลดความเสี่ยงจากการโจมตีภายใน (Insider Threat): ป้องกันไม่ให้พนักงานที่ลาออกหรือบุคคลอื่นนำข้อมูลสำคัญกลับมาใช้ได้
ข้อควรระวัง: การลบข้อมูลบน SSD (Solid State Drive) ควรใช้ซอฟต์แวร์ที่ออกแบบมาสำหรับ SSD โดยเฉพาะ (เช่น การใช้คำสั่ง Secure Erase หรือ Sanitize) เนื่องจากวิธีการเขียนทับหลายครั้งแบบดั้งเดิมอาจไม่สามารถลบข้อมูลได้อย่างสมบูรณ์ และอาจทำให้อายุการใช้งานของ SSD สั้นลงได้
To give you a better experience, by continuing to use our website, you are agreeing to the use of cookies and personal data as set out in our Privacy Policy | Terms and Conditions